ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้/เสริมสวย

วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560

เเต่งหน้าโทนส้ม

เริ่มด้วยหน้าสดที่ทำผมไว้ก่อนแล้วอีกรูป แล้วตามด้วยครีมกันแดด
วันนี้ใช้ของ Chou oil free sunscreen spf 50 pa +++ สูตรOil free
เนื้อครีมสีขาวมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวในตัว
เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ซึมไว เนื้อเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ
กดครีมกันแดดออกมาเท่ากับเหรียญสิบ แล้วทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ

จากนั้นทา primer - illamasqua matte veil
ไพร์มเมอร์ที่ทาแล้วช่วยเรื่องควบคุมความมัน + เครื่องสำอางติดทนนาน
ที่สำคัญให้ลุคดิวอี้ฉ่ำๆ
คือทาแล้วไม่ได้ดูหน้ามัน แต่เป็นไพร์มเมอร์ที่ช่วยทำให้หน้าเราดูโกลวๆขึ้นด้วย

ต่อมาลง รองพื้น - AURA Luxury CC Cream ของ COCO Blanc
นึกถึงงานดิวอี้ฉ่ำทีไรหยิบตัวนี้มาใช้แบบไม่ต้องคิดทันที
เป็น CC Cream ที่ช่วยทำให้หน้าเงา ทาแล้วฉ่ำมากที่สุดใน 3 โลกเลย
เนื้อครีมสีขาว ทาแล้วแตกตัวเป็นสีเดียวกับผิว
แต่แนะนำทารอบเดียวพอ ทาหลายรอบหน้ามันจะมันเยิ้มเอาได้
และไม่ต้องห่วง ตัวนี้ปกปิดรอยเล็กๆด้วย
วันนี้ดาวหยิบตัวนี้ขึ้มาใช้อีกทีเพราะอยากได้งานผิวแบบเกาหลีฟรุ้งฟริ้งนิดนึง

ยังปกปิดไม่พอ ใครอยากเนียนกริบตามมาลงคอนซีลเลอร์
Revlon colorstay concealer

คอนซีลเลอร์ให้การปกปิดสมบูรณ์แบบแต่ไม่หนักหน้า สามารถปกปิดรอบต่างๆได้หมดเลยค่ะ

AURA PRESSED POWDER - COCO BLANC
C2 ชื่อ Nude Chapaign Spring

เซทอัพทุกอย่างที่ลงามาด้วยการลงแป้งผสมรองพื้นเบอร์ที่พอดีกับสีผิว
ตัวนี้จะมีชิมเมอร์เบาๆ ให้ลุคผิวโกลวแต่หน้าไม่มัน
ดาวจะหยิบมาใช้คู่กันกับตัวซีซีครีมเวลาอยากได้หน้าโกลวๆ เกาหลีๆ

Archita Perfect Eyebrow - 02
เขียนคิ้วตามรูปคิ้วของเราเลย ใช้สีน้ำตาลอ่อนเขียน ให้มันเข้ากับสีผม

Bisous Bisous face contour - 01
ต่อมาคอนทัวร์จมูกให้โด่งดูสันเป็นคมเหมือนคนทำจมูกมา

Eyeshadow
ใช้ทั้งหมด 2 พาเล็ตนะคะ หรือคนที่มีสีใกล้เคียงอยู่แล้วก็สามารถเลือกใช้ของตัวเองได้เลย
วันนี้จะเน้นน้ำตาลส้ม ออกส้มๆ ให้เข้ากับลุคเนาะ

City Color : Multi-Look Palette Limited
น้ำตาลส้มอิฐทาคัดเบ้า
แล้วใช้สีส้มทาตาม

Paponk PAPONK First palette - Flirt time
ใช้สีส้มที่มีชิมเมอร์ทาทับลงไปให้ตามันวาวๆ ดูสวยๆเหมือนนงาแบบเกาหลีอ่ะนะ

Mille - Forver Black Pen Liner Waterproof
ทาอายไลน์เนอร์ชนิดปากกา
วิธีทาทาให้ชิดขอบตาที่สุด
เขียนตามเส้นตาเรา เขียนให้เลยหางตาออกมานิดนึง

Maybelline Rocket Volume Express
ปัดมาสค่าร่าทั้งขนตาบนและล่าง

Eyelash - Lasher.official - P15
ติดขนตาปลอมให้ดูฟรุ้งฟริ้ง

จริงๆนางแบบเกาหลีไม่ค่อยติด แต่ดาวจะติดเพราะอยากติดให้มันดูฟริ้งฟริ้งค่ะ
ถ้าดาวไม่ติดคือจะเป็นคนตาโล่งไปเลย

Pure Skins Mineral - Peachful
ปัดแก้มด้วยสีส้ม วันนี้เลือกใช้แบบฝุ่น ใช้นิดเดียวเพราะพิกเม้นเแน่นมาก ต้องปัดอย่างระมัดระวัง

Skinplants - Lip Blam
ทาลิปบาล์มก่อนลงสีลิปจริง

HERS cosmetics - 9 - Sun Kissed
ทาลิปสีส้มผสมนมๆ สีพาสเทล
ใครมีสีส้มนมๆ ที่ไม่นู้ดสีไหนก็จัดไปได้เลยค่ะ

เเต่งหน้าโทนน้ำตาล

ขั้นตอนที่1. หลังจากที่เราลงบำรุงหน้าแลลงะกันแดดเรียบร้อยแล้ว มาเริ่มต้นขั้นตอนแรกโดยการลง Primer ก่อนเลย ซึ่งตัวนี้จะเป็น Primer ที่ช่วยให้หน้าดูฉ่ำเงามีออร่ามากขึ้น หากใครอยากได้ลุคที่ดูแมท อาจจะเลือกใช้ Primer ที่ควบคุมความมันหรือแบบเนื้อมูสเป็นต้น (มันอาจจะดูฉ่ำไปสักหน่อย แต่พอลงรองพื้นตามแล้วผิวจะฉ่ำน้อยลงเองคะ)

ขั้นตอนที่2. มาลงรองพื้นกันเลย ซึ่งรองพื้นที่ชิใช้วันนี้จะเน้นการปกปิด เรียกได้ว่าแน่นๆเลยคะ โดยวิธีการลงรองพื้นของชิ คือทาลงไปบางๆก่อนทั่วทั้งหน้า แล้วใช้แปรงในการเกลี่ย

ขั้นตอนที่3. ลงคอนซิลเลอร์เพือกลบแพนด้า ลงไปตามจุดที่เราต้องการให้ปกปิด หากใครมีสิวก็ลงคอนซิลเลอร์ได้เลยคะ

ขั้นตอนที่4. สร้างมิติของใบหน้าด้วยการลง Shading ซึ่งวันนี้เลือกใช้เป็นเนื้อครีม เลือกสีเข้มกว่าผิว 2ระดับ แต่ที่ชิมีอาจจะเข้มไปสักหน่อยคะ วิธีการคือ ลงไปทั่วๆกรอบหน้าและปีกจมูก สำหรับมือใหม่หรือคนที่ไม่ชำนาญอาจจะใช้พัฟในการช่วยเกลี่ย่ก่อนในช่วงแรก จะทำให้ง่ายขึ้น และวันนี้ชิก็เลือกทำวิธีนี้ เพราะยังให้ความสะดวกรวดเร็วอีกด้วย

ขั้นตอนที่5. มี Shading แล้วก็ต้องมี Hilight เพราะมันเป็นของคู่กัน ซึ่งวันนี้ชิเลือก Hilight สีมุกแบบแท่งในการเพิ่มมิติ เพราะมันง่าย สะดวกและสีเข้ากับโทนสีผิว เพิ่มมิติในช่วง สันจมูก โหนกแก้ม หน้าผากและคาง

ขั้นตอนที่6. เซ็ตผลิตภัณฑ์เนื้อครีมต่างๆด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสงทั่วทั้งใบหน้า

ขั้นตอนที่7. มาเริ่มต้นแต่ง Point makeup เลยคะ ซึ่งสิ่งแรกเลยก็คือ คิ้ว วันนี้จะเขียนคิ้วเข้ม และโก่งขึ้นสักหน่อย โดยใช้ที่เขียนคิ้วแบบเจลเพิ่มความเป๊ะ

ขั้นตอนที่8. เริ่มต้นการแต่งตาด้วย Eye shadow base แบบลิควิด สีขาวมุก เพื่อให้อายแชร์โดวสีติดชัด และติดทนนานมากขึ้น

ขั้นตอนที่9. วันนี้เลือกใช้ Eye shadow palette สีน้ำตาล โดยการใช้สีเข้มลงไปที่กลางถึงปลายตา
ขั้นตอนที่10. ลงสีไข่ไก่บริเวณหัวตา
ขั้นตอนที่11. ลงสีน้ำตาลแดงบริเวณกลางตาเป็นจุดเชื่อมของสีที่ทาไปตัวหาและหางตา

ขั้นตอนที่12.จากนั้นจบท้ายด้วยการใช้ Eye shadow สีน้ำตาลเข้ม (เนื้อแมท) คัดเบ้า และเขียนไปทั้งขอบล่างทั้งหมด (หากใครเป็นคนที่หนังตามัน หรือน้ำตาเยอะ ควรใช้ดินสอสีน้ำตาลเขียนขอบตาล่างก่อนแล้วทับด้วยแบบฝุ่นตามอีกครั้ง

ขั้นตอนที่13. ปัดมาสคาร่าขนตาบนและล่าง เตรียมพร้อมสำหรับการติดขนตา

ขั้นตอนที่14. ติดขนตาปลอม วันนี้เลือกใช้แบบที่ไม่ฟรุ้งฟริ้ง จะยาวและหนาสักหน่อย เพื่อให้ตาดูคมชัดมากขึ้น หลังากที่ติดขนตาแล้ว ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าให้ขนตาจริงกับขนตาปลอมเข้ากันอีกครั้ง

ขั้นตอนที่15. กรีดไลน์เนอร์เส้นบาง และวิงหางสูงนิดเพื่อเพิ่มความเฉี่ยว (เปลี่ยนรูปทรงไลนเนอร์ได้ตามความเหมาะสมของรูปตาเรา)

ขั้นตอนที่16. Bronzer หน้ากันต่อเลย ซึ่งเรามีการลง Shading เนื้อครีมกันแบบหนักหน่วงไปแล้ว เราจึงเลือกใช้ Bronzer ที่สีไม่เข้มจนเกินไป บริเวณกรอบหน้าและปีกจมูก

ขั้นตอนที่17. วันนี้ไม่อยากให้สีแก้มชัดจนเกินไป จึงเลือกใช้สีส้มพีช แตะที่หน้าแก้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ขั้นตอนที่18.เพิ่มความฉ่ำกันด้วยไฮไลท์หน้า ซึ่งวันนี้เราจะไฮไลท์หนักมากกกกก ทับในบริเวณที่เราลงด้วยเนื้อครีมไว้แล้วให้พุ่งมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่19. จบท้ายด้วยการทาลิป ซึ่งวันนี้แน่นอนว่าเรามาโทนน้ำตาล จึงเลือกใช้ลิปสีน้ำตาล แต่หากใครยังกลัวลุคจะดูดุจนเกินไป สามารถใช้สีนู้ดทาแทนได้เลยคะ

เเต่งหน้าเเบบเกาหลี

เริ่มแรกฉีดสเปรย์น้ำแร่ (Avene) ให้ทั่วหน้า แล้วปล่อยให้ซึมซับส่วนเกินออกด้วยทิชชู วิธีนี้จะช่วยซับความมันจากครีมที่ลงได้ ตามด้วยลงเบส (Skinfood) เพื่อปรับให้ผิวดูผ่องขึ้น เราเน้นที่ใต้ตาเยอะหน่อย ตามด้วยรองพื้น (Ver.22 bounce up pact) เราใช้รองพื้นแบบดินน้ำมัน สะดวกสุด ๆ

หน้าผ่องขึ้นมาละ เริ่มเห็นแววจะมาไกล ๆ

เอาให้เนียนกริบ แต้ม Concealer (Revlon) ที่รอยสิว หรือใครมีรอยอะไรก็แต้มไปนะคะ แล้วตามด้วยแป้งแบบฝุ่น (MTI) มาต่อกันที่คิ้วนะคะ ใช้แบบดินสอ (Canmake) วาดเริ่มจากท้องคิ้ว เติมหางคิ้วที่แสนจะน้อยนิดของเราให้เต็ม ค่อย ๆ วาดกลับมาที่หัวคิ้ว วาดให้มีความโค้ง ๆ มน ๆ (นางเอกเรื่องนี้คิ้วไม่ตรงเท่าไร แต่ก็ไม่ได้โก่งแบบหักมุม) ใช้ดินสอเขียนคิ้วแรเงาจากคิ้วมาที่จมูกด้วยนิด ๆ เป็นเฉดดิ้ง แล้วใช้แบบฝุ่น (Kate) สีตรงกลาง วาดหางคิ้วซ้ำ เพื่อให้ทนขึ้น งานตามาแล้ว ใช้ตลับเดียวเอาอยู่ (Kate BR-1) ใช้สี 1 ลงทั่วเบ้าตาบน และใต้ตาล่างเส้นบาง ๆ จากหัวตาไปหางตา สี 3 ทาเข้ามาครึ่งหนึ่งของตาตั้งแต่หางตาทั้งบนและล่าง ตาบนเว้นช่วงรอยพับตา สี 4 ทาแค่หางตา เข้ามา 1/3 วาดให้เกินตาออกมานิดหน่อย ต่อกันที่ อายไลเนอร์ ใช้แบบลิควิด (Mistine) เขียนให้ชิดโคนขนตา แล้วใช้แบบดินสอ (Canmake) เติมหัวตา หางตาตามรูป

ส่วนของปากบ้าง เราทาสี Naturally nude ลงไปก่อน แล้วตามด้วยสี Strawberry suede จากกลางปาก แล้วเกลี่ย ๆ

ปัดแก้ม (Fasio OR220) ทาสี 1 ที่โหนกแก้มเป็นวงกลมเล็ก ๆ ตามด้วยสี 2, 3 ผสมกันทาเป็นวงรี (งามมโน จากรูปไม่เห็นสีเลย) เสร็จแล้วฉีดน้ำแร่อีกครั้ง ซับส่วนเกินออก

แล้วปัดมาสคาร่าตา และมาสคาร่าคิ้วสีทอง
เสร็จแล้วค่ะ มาดูก่อนและหลังกัน
เทียบกันหน่อยซิ
ขอไปแอ๊บถ่ายรูปนิดหนึ่ง

แต่งหน้าลุคใส ๆ สไตล์นางเอกเกาหลี แบบนี้สิสวยใสเป็นธรรมชาติสุด ๆ สำหรับสาวไทยคนไหนที่อยากสวยแบ๊วแบบสาวเกาหลีกับเขาบ้างก็ลองเอาวิธีนี้ไปแต่งตามกันดูนะคะ รับรองเป๊ะปังสุด ๆ เลยแหละ

เเต่งเเบบใสๆ

ขั้นตอนแรกเป็นขั้นตอนของผิวค่ะ โดยในลุคนี้ต้องการความเป็นธรรมชาติ เชอรี่เลยจะไม่ทารองพื้นนะคะ โดยปกติจะชอบใช้คอนซีลเลอร์แต้มเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาของผิวหน้าค่ะ

1. ใช้ oreintal princess : stop age concealer สี 2+3 ผสมกันจะได้สีเหมือนสีผิวค่ะ เชอรี่นำมาปกปิดรอยแผลเป็นตรงแก้ม แตะตรงปีกจมูก หน้าผาก และขอบปากเพื่อให้สีผิวดูเสมอกันค่ะ

2. ใช้สี 1 ทาบริเวณใต้ตาและเปลือกตาให้ทั่วค่ะ

จากนั้นก็จะทาแป้งผสมรองพื้นให้ทั่วใบหน้าเพื่อเซตคอนซีลเลอร์และช่วยปกปิดรูขุมขนแต่จะใช้แปรงปัดแทนการใช้พัฟเพื่อลุคที่ดูบางเบากว่าค่ะ โดยเชอรี่ใช้แป้ง chanel : mat lumiere extreme #10 beige clair

ใช้ครีมบลัช kma : perfect face cream rouge #curr f1 แตะ ๆ แล้วทาบริเวณแก้มเพื่อให้ดูหน้าดูเปล่งปลั่งระเรื่อ ๆ

สำหรับคิ้ว จะไม่ได้ทำอะไรมากค่ะ อยากให้ดูเป็นธรรมชาติ ใช้ mac : brow set #beguile ปัด ๆ เพื่อให้สีขนคิ้วดูอ่อนลงเล็กน้อยและเพื่อให้ขนคิ้วเรียงเส้นค่ะ

ขั้นตอนแต่งดวงตาค่ะ ทั้งหมดใช้พาเลท too faced : semi sweet chocolate bar ค่ะ ชอบสีสวยและหอมมมมมมมม ^^

1. ใช้สี coconut creme ซึ่งเป็นสีโทนขาวทาเพิ่มความสว่างให้ทั่วเปลือกตาค่ะ

2. ใช้สี peanut butter ซึ่งเป็นสีน้ำตาลอมส้ม ทาบริเวณเบ้าตาเพื่อให้ดวงตาดูลึกขึ้นค่ะ

3. ทาขอบตาล่างด้วย maybelline : colorshow สีชมพูอ่อน เพื่อให้ดวงตาแลดูมีวิ้ง ๆ เล็กน้อยเพิ่มความเป็นประกายและความโดดเด่นของดวงตาค่ะ

4. ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าค่ะ ใช้ maybelline : the falsies big eyes

1. คอนทัวร์จมูกใช้อายแชโดว์ สี mousse ค่ะ อย่างเบามือนะคะ เพราะไม่อยากให้เห็นชัดจนเกินไปค่ะ

2. ไฮไลท์โหนกแก้มใช้สี butter pecan เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติค่ะ

ขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ การทาปากนั่นเอง !

1. ทาลิปสติกสีชมพูนู้ดค่ะ mac : runway hit ลิปสติกอันนี้เป็นเนื้อแมตต์ ที่เชอรี่คิดว่าเป็นเนื้อแมตต์ที่แห้งไปหน่อยแต่สีสวยเลยให้อภัย 55+ ทาลิปสติกให้ทั่วริมฝีปากค่ะ

2. ทาลิปกลอสทับค่ะ โดยจะเน้นแตะ ๆ ที่กึ่งกลางริมฝีปากค่ะ ใช้กลอสสีใสของ too faced : lip injection

เสร็จแล้วค่ะ เท่านี้ก้อได้ลุคที่ดูใส ๆ แบบธรรมชาติแล้วค่ะ

ลุคนี้แต่งหน้าเหมือนไม่ได้แต่งเลยนะคะเนี่ย ดูแล้วน่ารักสวยใสเป็นธรรมชาติสุด ๆ เหมาะกับที่จะใช้แต่งไปเรียน ไปทำงานได้ทุกวันเลยล่ะค่ะ

การเเต่งหน้าเเบบเบาๆ

1. ขั้นตอนแรกเลย ก่อนแต่งหน้าเราจะต้องเตรียมผิวให้พร้อมก่อน เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างเต็มที่เพื่อให้ผิวเราผลิตน้ำมันออกมาช้าลง หน้าก็จะมันช้าลงนั่นเอง เบลล์ทา Moisturizer ตัวที่ทาประจำพอครีมซึมเข้าผิวเรียบร้อยแล้ว ก็ค่อยไปขั้นตอนต่อไป

2. ทากันแดด เบลล์เลือกกันแดดที่ใช้เป็นเบสได้ด้วย เพื่อลดขั้นตอนการแต่งหน้าลงไปและทำให้ชั้นของเครื่องสำอางบางลง ไม่หนักผิว เวลาเจออากาศร้อน ๆ ผิวก็จะหายใจได้ เมคอัพไม่ไหลเยิ้ม อ่อ...ทาหน้าแล้วอย่าลืมทาคอด้วยล่ะ

         3. สำหรับใครที่มีรอยด่างดำ รอยสิว ให้ใช้คอนซีลเลอร์เนื้อบางแต่ปกปิดได้ มาแต้มกลบเฉพาะจุดที่ต้องการแต่ถ้าใครผิวดีอยู่แล้ว ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยค่ะ

         4. และสำหรับใครที่ใต้ตาคล้ำมาก (เป็นญาติกับหลินปิงก็ไม่บอก 555) ใช้คอนซีลเลอร์ทาที่ใต้ตาแล้วค่อย ๆ เอานิ้วแตะ ๆ เกลี่ย ๆ ลงมาให้กลืนไปกับผิว

             ขั้นตอนนี้สำคัญทีเดียว พอใต้ตาหายคล้ำแล้วหน้าก็จะดูสดชื่นขึ้นมาอีกสเต็ปแล้วล่ะค่ะ

5. เติมความสดใสให้ใบหน้าด้วยครีมบลัชสีส้ม ใช้นิ้วแต้ม ๆ เกลี่ย ๆ ตามทรงแก้มตรงตำแหน่งที่เวลาเราเหนื่อย ๆ แล้วแก้มจะแดงตรงนั้นเลยจ้า เพื่อให้ใบหน้าเราดูมีเลือดฝาดตลอดเวลา

6. เซตผิวให้กลมกลืนด้วยแป้ง Mineralize ใช้แปรงปัดเบา ๆ วนให้ทั่วทั้งหน้าจะเห็นว่าลุคนี้เบลล์ไม่ลง BB Cream ไม่ลงรองพื้นแต่อย่างใด เพราะตั้งใจโชว์ผิวจริง ๆ (แต่ถ้าใครมีจุดที่ต้องปกปิดเยอะ อันนี้ก็โชว์ไม่ไหวนะ 5555) ใครได้ลองลุคนี้อาจจะติดใจ เพราะมันสบายผิวมาก

7. จากนั้นก็สร้างมิติให้ใบหน้าด้วย Shading Powder สร้างดั้งเทียมโดยระบายสีที่ใต้หัวคิ้วไล่ลงตามข้างสันจมูกและเพิ่มความเรียวให้กับแก้มนิดหนึ่ง โดยใช้แปรงเฉียง ปัดไล่ใต้โหนกแก้มเป็นเส้นเอียงลงมาไม่เกินหางตาและปัดทั่วกรอบหน้า ทั้งส่วนกรามและตีนผม

         8. เขียนคิ้วตามรูปคิ้วเดิม ลุคนี้ไม่ต้องเป๊ะมาก เขียนให้พอเป็นรูปทรงก็พอค่ะ

         9. แต่งตาลุคนี้ใช้อายแชโดว์สีเดียวเท่านั้น คือสีน้ำตาลอ่อนมีวิ้ง ๆ นิดหน่อย ให้พอดูมีอะไรใช้นิ้วป้ายไปเลยทั่วเปลือกตา ง่าย ๆ อย่าคิดมาก

         10. เขียนขอบตาด้วยอายไลน์เนอร์แบบดินสอ สีน้ำตาล เขียนไม่ต้องเนี้ยบแค่เขียนใช้ชิดโคนขนตา และสูงไม่เกินรอยพับตาจากนั้นใช้คอตตอนบัดเกลี่ยขอบให้ดูนัวร์ ๆ เหมือนไม่ตั้งใจ (ก็ไม่ตั้งใจจริง ๆ นั่นแหละ) และเขียนขอบตาล่างนิดหน่อย แค่จากหางตาลากมาไม่เกินตาดำก็พอค่ะ

11. ดัดขนตา แล้วปัดมาสคาร่าตามอัธยาศัย เบลล์ปัดทั้งขนตาบนและขนตาล่างในขั้นตอนนี้ถ้าใครขนตายาวมากอยู่แล้ว ก็ปัดมาสคาร่าให้เต็มที่แล้วข้ามการติดขนตาปลอมไปได้เลยค่ะ

12. ติดขนตาปลอม ขั้นตอนนี้ เบลล์ขอติดหน่อยละกันเนอะ เพราะส่วนตัวเป็นคนขนตาสั้นมากแถมเวลาลืมตา ขนตายังม้วนพับไปซ่อนในหนังตา หายเกลี้ยง ปัดมาสคาร่ายังไงก็ไม่เห็นขนตาค่ะ เบลล์เลยติดขนตาเพื่อให้ลุคนี้สมบูรณ์มากขึ้น ขนตาที่เลือกมาติด เป็นเบอร์ที่ลองติดแล้วไม่ยาวมาก เวลาลืมตาเห็นขนตาสั้น ๆ ประหนึ่งขนตาคนปกติ

13. แต่งตาเสร็จแล้ว เรามาเติมสีแก้มให้ชัดขึ้นอีกนิด ใช้บลัชออนแบบฝุ่นสีใกล้เคียงครีมบลัชในตอนแรกปัดทับตำแหน่งเดิมเบา ๆ เป็นการช่วยเซตสีแก้มให้ติดทนติดนานยิ่งขึ้น

14. ตอนนี้ทั้งหน้าดูนัวร์ ๆ นู้ด ๆ ไปแล้ว ขอตบท้ายด้วยลิปสีสด ๆ ดึงความสดใสกลับมาเท่านี้ ก็ได้ลุคเบา ๆ ใส ๆ น่ารัก (ป่ะ) แล้วจ้า

เห็นหน้าเรียวบ้างกลมบ้างตามมุมกล้อง แต่ถ้าเป็น long shot จะพบว่า ซิ่มเป็นสาวอวบนะจ๊ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

ขอส่งท้ายกระทู้ด้วยมุมแอ๊บ แบบที่ ถ้าไม่ Selfie ทำไม่ได้